ซาลซ์บูร์ก เมืองที่ธรรมชาติและเสียงเพลงโอบล้อมทุกความรู้สึก

ซาลซ์บูร์ก (Salzburg) เป็นเมืองที่หลอมรวมความงดงามของธรรมชาติและประวัติศาสตร์ไว้อย่างลงตัว เมืองนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาแอลป์และริมแม่น้ำซาลซาค สร้างบรรยากาศอันแสนโรแมนติกและเงียบสงบ สถาปัตยกรรมแบบบาโรกของเมืองเก่า สะท้อนถึงความรุ่งเรืองในอดีต

ปราสาทโฮเฮนซาลซ์บูร์ก (Hohensalzburg Fortress)
เป็นหนึ่งในปราสาทที่ใหญ่ที่สุดและได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีที่สุดในยุโรปกลาง ตั้งอยู่บนยอดเขาเฟสเทินเบิร์ก (Festungsberg) ใจกลางเมืองซาลซ์บูร์ก สัญลักษณ์สำคัญของเมืองที่สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล ปราสาทเริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 1077 โดยอาร์คบิชอป เกบฮาร์ด (Gebhard von Helfenstein) ถูกขยายและปรับปรุงอย่างต่อเนื่องในช่วงศตวรรษที่ 15-16 เพื่อป้องกันการรุกราน โดดเด่นด้วยกำแพงหินแข็งแรง หอคอยสูง และลานกว้างที่สง่างาม ปราสาทเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม พร้อมพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ของปราสาท เมืองซาลซ์บูร์ก และวิถีชีวิตในยุคกลาง จากปราสาทสามารถชมวิวเมืองซาลซ์บูร์ก แม่น้ำซาลซาค และเทือกเขาแอลป์ได้อย่างชัดเจน เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่ได้รับความนิยม

สวนมิราเบล (Mirabell Gardens)
เป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังมิราเบล (Mirabell Palace) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองซาลซ์บูร์ก ประเทศออสเตรีย สวนแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่มีชื่อเสียงในด้านความงดงามของภูมิทัศน์และสถาปัตยกรรมแบบบาโรก พระราชวังมิราเบลถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1606 โดยอาร์คบิชอป โวล์ฟ ดีทริช (Wolf Dietrich von Raitenau) เพื่อมอบให้เป็นของขวัญแก่คนรักของเขา สวนแห่งนี้ได้รับการออกแบบใหม่ในสไตล์บาโรกในศตวรรษที่ 18 มีการจัดวางพื้นที่อย่างสมมาตร พร้อมประดับด้วยต้นไม้ ดอกไม้หลากสีสัน และพุ่มไม้ที่ถูกตกแต่งอย่างประณีต จุดเด่นของสวนคือ น้ำพุเพกาซัส (Pegasus Fountain) รูปปั้นม้าบินที่ตั้งอยู่กลางน้ำพุ จากสวนคุณสามารถมองเห็นปราสาทโฮเฮนซาลซ์บูร์กในมุมที่งดงาม สร้างฉากหลังที่สมบูรณ์แบบสำหรับการถ่ายภาพ

มหาวิหารซาลซ์บูร์ก (Salzburg Cathedral)
เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญและโดดเด่นที่สุดในเมืองซาลซ์บูร์ก ประเทศออสเตรีย โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบบาโรกที่งดงาม และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์อันยาวนานของเมือง มหาวิหารแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 774 ในยุคของอาร์คบิชอป Virgil และได้รับการบูรณะหลายครั้ง โครงสร้างปัจจุบันสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1628 หลังจากการออกแบบใหม่ในสไตล์บาโรก มหาวิหารมีโดมขนาดใหญ่สูง 79 เมตร ซึ่งเป็นจุดเด่นที่มองเห็นได้จากระยะไกล ภายในตกแต่งด้วยจิตรกรรมฝาผนังและประติมากรรมอันละเอียดอ่อน ประตูทางเข้าหลักแกะสลักด้วยรูปปั้นของนักบุญสำคัญ เป็นสถานที่ที่โมซาร์ทได้รับพิธีศีลล้างบาป และที่นี่คือจุดเริ่มต้นของเส้นทางดนตรีในชีวิตของเขา

หมู่บ้าน Hallstatt
เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ Hallstätter See ในแคว้นอัปเปอร์ออสเตรีย (Upper Austria) ประเทศออสเตรีย หมู่บ้านนี้มีชื่อเสียงในฐานะหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยงามและมีมนต์เสน่ห์ที่สุดในโลก ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO ในปี ค.ศ. 1997 ด้วยความงดงามของภูมิประเทศและความสำคัญทางประวัติศาสตร์ หมู่บ้านตั้งอยู่ระหว่างภูเขาสูงชันและทะเลสาบใสสะอาด ท่ามกลางบรรยากาศที่สงบและโรแมนติก บ้านเรือนที่มีสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมตั้งเรียงรายริมทะเลสาบ เป็นแหล่งขุดค้นโบราณคดีที่สำคัญ โดยเฉพาะเหมืองเกลือที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ซึ่งมีอายุย้อนกลับไปกว่า 7,000 ปี วัฒนธรรม Hallstatt (Hallstatt Culture) ในยุคสำริดและยุคเหล็กแรกเริ่ม เป็นหนึ่งในแหล่งกำเนิดอารยธรรมในยุโรป ล่องเรือในทะเลสาบเพื่อชมความงามของหมู่บ้านจากมุมต่างๆ เป็นกิจกรรมยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวต้องลองสัมผัส

ทะเลสาบวูล์ฟกังซี (Wolfgangsee)
เป็นทะเลสาบที่งดงามและเป็นหนึ่งในทะเลสาบที่มีชื่อเสียงที่สุดในภูมิภาค Salzkammergut ของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ระหว่างภูเขาสูงและป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ ทะเลสาบแห่งนี้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติและกิจกรรมกลางแจ้ง ทะเลสาบมีน้ำใสสะอาดที่สะท้อนเงาภูเขาและท้องฟ้า ล้อมรอบด้วยหมู่บ้านที่มีเสน่ห์ เช่น St. Wolfgang, St. Gilgen, และ Strobl นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือข้ามทะเลสาบเพื่อชมวิวทิวทัศน์และเยี่ยมชมหมู่บ้านรอบๆ ในช่วงฤดูร้อน ทะเลสาบนี้เป็นที่นิยมสำหรับการว่ายน้ำ พายเรือแคนู และกระดานโต้คลื่น ฤดูหนาว บรรยากาศเงียบสงบพร้อมวิวหิมะที่ปกคลุมภูเขา เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความสงบ