ท่องเที่ยวอิตาลี ดินแดนแห่งความโรแมนติก มีเสน่ห์และมนต์ขลัง

ประเทศอิตาลี(Italy) เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และมนต์ขลังที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ด้วยทิวทัศน์อันงดงามจากชายหาดที่ขาวสะอาด, ภูเขาที่สูงตระหง่าน, และเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และศิลปะอันล้ำค่า อิตาลีคือแหล่งรวมของ ความโรแมนติก, วัฒนธรรม, และ อาหารอร่อย ที่ไม่เหมือนใคร ตั้งแต่การเดินชมเมืองโบราณในกรุงโรม, การนั่งเรือในคลองเวนิส, จนถึงการลิ้มรสไวน์และพาสต้าในฟลอเรนซ์ ประเทศนี้ทำให้คุณรู้สึกเหมือนหลุดไปในภาพวาดที่มีชีวิต

✨สถานที่ที่ไม่ควรพลากเมื่อไปเยือนอิตาลี✨

โคลอสเซียม (Colosseum)
เป็นหนึ่งใน สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ และสัญลักษณ์ของอารยธรรมโรมัน มีโครงสร้างที่ยิ่งใหญ่และซับซ้อน ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 70-80 โดยจักรพรรดิแห่งโรมัน ใช้เป็นสนามกีฬาโบราณสำหรับการแสดง เช่น การต่อสู้ของนักรบกลาดิเอเตอร์ การล่ามสัตว์ และการแสดงละครน้ำ สามารถเยี่ยมชมชั้นใต้ดินที่เคยเป็นที่กักขังนักรบและสัตว์ โคลอสเซียมยังสะท้อนถึง ความก้าวหน้าทางสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม ของโรมันโบราณ

หอเอนเมืองปิซา (Leaning Tower of Pisa)
หอเอนเมืองปิซาถือเป็นส่วนหนึ่งของ จัตุรัสเปียซซา เดล ดูโอโม (Piazza del Duomo) หรือที่รู้จักในชื่อ จัตุรัสปาฏิหาริย์ (Piazza dei Miracoli) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO ในปี ค.ศ. 1987 เป็นหนึ่งใน แลนด์มาร์กที่โดดเด่นที่สุดในโลก เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 1173 และแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1372 (ใช้เวลาสร้างกว่า 199 ปี) สถาปัตยกรรมมีสไตล์โรมาเนสก์ (Romanesque) มีความสูง 56 เมตร (จากพื้นถึงยอดเมื่อวัดจากฝั่งสูงที่สุด) ลักษณะพิเศษ เอียงประมาณ 4 องศา หรือประมาณ 3.9 เมตรจากแนวตั้งปกติ การเอียงเกิดจากดินอ่อนใต้ฐานรากที่ไม่สามารถรองรับน้ำหนักของหอคอยได้ ตัวหอคอยมี 8 ชั้น (รวมฐานล่าง) และมีบันไดวนทั้งหมด 294 ขั้น

คลองแกรนด์ในเวนิส (Grand Canal)
คลองแกรนด์เป็นคลองหลักที่ตัดผ่านใจกลางเมืองเวนิส และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มาตั้งแต่ยุคกลาง ตลอดเส้นทางคลองจะมี พระราชวังเก่าแก่ (Palazzi) กว่า 170 แห่งที่สร้างขึ้นในยุคเรเนซองส์ โกธิก และบาโรก การเดินทางในคลองแกรนด์สามารถใช้บริการ เรือกอนโดลา (Gondola) ที่เป็นเอกลักษณ์ของเวนิส หรือ เรือวาโปเร็ตโต (Vaporetto) ที่เป็นเรือสาธารณะ คลองแกรนด์สะท้อนถึง วิถีชีวิตของชาวเวนิส ซึ่งต้องพึ่งพาการเดินทางทางน้ำเป็นหลัก ทัศนียภาพของเมืองที่มองจากคลองแกรนด์ถือเป็นหนึ่งใน ภาพที่สวยงามที่สุดในอิตาลี

เมืองโบราณปอมเปอี (Pompeii)
ซากเมืองโบราณที่ได้รับการขุดค้นและอนุรักษ์จนเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เมืองปอมเปอีถูกฝังไว้ใต้เถ้าภูเขาไฟวิสุเวียส (Mount Vesuvius) ในปี ค.ศ. 79 ซึ่งทำให้การใช้ชีวิตในเมืองนี้ได้หยุดลงทันที หลังจากการขุดค้นในศตวรรษที่ 18 เมืองโบราณนี้ได้เผยให้เห็นสภาพบ้านเรือน, ถนน, ร้านค้า, และ การประดับตกแต่งภายใน ที่ยังคงสภาพสมบูรณ์จากยุคโรมัน รูปปั้นและเครื่องใช้โบราณ

พิพิธภัณฑ์อุฟฟิซิ (Uffizi Gallery)
อุฟฟิซิเป็นที่เก็บรวบรวมผลงานจากศิลปินยุคเรเนซองส์ที่มีชื่อเสียงที่สุด เช่น เลโอนาร์โด ดา วินชี (Leonardo da Vinci), มิเกลแอนเจโล (Michelangelo), ราฟาเอล (Raphael) และ บอตติเชลลี (Sandro Botticelli) เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีคอลเล็กชั่นศิลปะยุคเรเนซองส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก พิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงในรูปแบบของ ห้องต่างๆ ที่แต่ละห้องมีการจัดแสดงผลงานของศิลปินจากสำนักต่างๆ ของยุคเรเนซองส์ รวมทั้งการจัดแสดงงานประติมากรรมของมิเกลแอนเจโล อาคารของพิพิธภัณฑ์มีสถาปัตยกรรมแบบ แมนนูเอลลิน (Mannerist) และเป็นผลงานการออกแบบโดย จอร์โจ วาซารี (Giorgio Vasari) ซึ่งเป็นหนึ่งในนักออกแบบที่สำคัญในสมัยนั้น

มหาวิหารดูโอโม่แห่งฟลอเรนซ์ (Florence Cathedral / Duomo)
โดมที่สร้างโดยฟิลิปโป บรูเนลเลสคี (Filippo Brunelleschi) เป็น หนึ่งในอัจฉริยะทางสถาปัตยกรรมของยุคเรเนซองส์ ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในยุคที่สร้าง การออกแบบภายนอกของมหาวิหารดูโอโม่มีการตกแต่งอย่างละเอียดด้วยหินอ่อนสีเขียว, ขาว, และสีแดง รวมทั้งมีการออกแบบในสไตล์ โกธิค และ เรเนซองส์ ภายในของมหาวิหารมีงานจิตรกรรมที่มีชื่อเสียง เช่น "Last Judgment" บนพื้นของโดม และภาพโมเสคของพระแม่มารีที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ และมีหอระฆังจิโอทโต (Giotto's Campanile ที่ตั้งอยู่ข้างมหาวิหาร เป็นสถานที่ที่สามารถชมวิวทิวทัศน์ของเมืองฟลอเรนซ์ได้อย่างงดงาม

เกาะคาปรี (Capri)
เกาะคาปรีตั้งอยู่ในทะเลไทเรเนียน ใกล้ชายฝั่งทางใต้ของอิตาลี มีถ้ำบลูเกท (Blue Grotto) ถ้ำทะเลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเกาะคาปรี ด้วยน้ำทะเลที่มีสีฟ้าสดใสเมื่อแสงแดดส่องเข้ามาภายในถ้ำ นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมถ้ำด้วยเรือขนาดเล็ก เกาะนี้เคยเป็นสถานที่พักผ่อนของจักรพรรดิโรมัน และคุณสามารถเยี่ยมชม วิลล่าเจียโน (Villa Jovis) ซึ่งเป็นวิลล่าโรมันที่สร้างโดยจักรพรรดิ Tiberius เกาะคาปรีมีบรรยากาศที่ โรแมนติกและผ่อนคลาย เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายจากเมือง

ทะเลสาบการ์ดา (Lake Garda) 
ทะเลสาบการ์ดาตั้งอยู่ในบริเวณตอนเหนือของอิตาลี ระหว่างแคว้นลอมบาร์เดีย (Lombardy), เวเนโต (Veneto), และเทรนติโน (Trentino) เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี มีทิวทัศน์ที่สวยงามและถูกล้อมรอบด้วย ภูเขา และ หมู่บ้านริมทะเลสาบ ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโบราณและธรรมชาติอันงดงาม มีการบริการ เรือเฟอร์รี่ และ เรือท่องเที่ยว ที่พานักท่องเที่ยวล่องไปตามทะเลสาบเพื่อชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของภูเขาและหมู่บ้านต่างๆ ทะเลสาบการ์ดามีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามและสงบ ซึ่งเหมาะสำหรับการผ่อนคลายและเดินชมบรรยากาศ

ทะเลสาบโคโม (Lake Como)
ตั้งอยู่ในแคว้นลอมบาร์เดีย (Lombardy) ทางตอนเหนือของอิตาลี ใกล้กับเมืองมิลาน เป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดในอิตาลีและหนึ่งในทะเลสาบที่มีความงดงามที่สุดในยุโรป ทะเลสาบโคโมมีลักษณะคล้ายตัว "Y" กลับหัว โดยมีสามแขนที่ลึกและแคบ ซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขาสูงและหมู่บ้านน่ารักๆ สามารถล่องเรือชมวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบและหมู่บ้านต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย รวมถึงการเช่าเรือท่องเที่ยวเพื่อชมพระอาทิตย์ตกดิน ทะเลสาบโคโมมีการเดินป่าหลายเส้นทางที่ให้คุณชมทิวทัศน์ที่งดงามของภูเขาและทะเลสาบ, รวมถึงกิจกรรมเช่น พายเรือคายัค และ ขี่จักรยาน ในเส้นทางที่รอบๆ ทะเลสาบ

เกาะซาร์ดิเนีย (Sardinia)
เกาะซาร์ดิเนียตั้งอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอิตาลี ห่างจากชายฝั่งแผ่นดินใหญ่ของอิตาลีประมาณ 200 กิโลเมตร เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองของอิตาลี (รองจากซิซิลี) เกาะนี้เต็มไปด้วยชายหาดที่สวยงาม ภูเขา และธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีทั้งเมืองใหญ่และหมู่บ้านท้องถิ่นที่มีเสน่ห์ มีชายหาดคอสตา สเมรัลดา (Costa Smeralda) ชายหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดในซาร์ดิเนีย ด้วยน้ำทะเลสีฟ้าครามและทรายขาว และชายหาดลา เปลา (La Pelosa) ชายหาดที่มีน้ำใสและวิวที่สวยงาม เหมาะสำหรับการว่ายน้ำและพักผ่อน อีกทั้งยังเป็นเกาะที่ยังคงมี บรรยากาศเงียบสงบ และไม่พลุกพล่านเกินไปเมื่อเทียบกับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในอิตาลี