ฝรั่งเศส ดินแดนแห่งน้ำหอม 7 วัน 6 คืน ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว

2 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ฝรั่งเศส ดินแดนแห่งน้ำหอม 7 วัน 6 คืน ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว

ประเทศฝรั่งเศส (France) เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ด้วยความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยว วัฒนธรรม และประสบการณ์ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ฝรั่งเศสมีสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO กว่า 40 แห่ง ไม่ว่าคุณจะชอบศิลปะ ประวัติศาสตร์ อาหาร ธรรมชาติ หรือแฟชั่น ฝรั่งเศสก็มีทุกสิ่งให้คุณได้สัมผัสอย่างครบถ้วน


✨สถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนฝรั่งเศส✨

หอไอเฟล (Eiffel Tower)
เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของปารีส และฝรั่งเศส ทั้งในด้านการออกแบบและประวัติศาสตร์ สร้างขึ้นในปี 1887-1889 สร้างขึ้นสำหรับงาน ปารีสเอ็กซ์โป (Exposition Universelle) ซึ่งเป็นการจัดแสดงนิทรรศการโลกที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 100 ปีของการปฏิวัติฝรั่งเศส มีลักษณะเป็นทรงสูงย่อมาจากฐานถึงยอด ซึ่งออกแบบให้มีความสวยงามและเสถียรแม้ในลมแรง หอไอเฟลเป็นหนึ่งในตัวแทนของ สถาปัตยกรรมยุคเหล็ก ซึ่งเป็นยุคที่มีการใช้เหล็กเป็นวัสดุก่อสร้างหลัก


ประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de Triomphe)
เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของปารีส และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างมาก ประตูชัยนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1806 โดย นโปเลียน โบนาปาร์ต หลังจากที่ฝรั่งเศสชนะในการรบที่ Austerlitz ในปี 1805 เพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารที่เสียชีวิตในการรบและเพื่อฉลองชัยชนะในสงคราม สร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 1836 การออกแบบของประตูชัยมีสไตล์ นีโอคลาสสิก (Neoclassical) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมโรมันโบราณ บนผนังของประตูชัยมีการแกะสลักภาพเหตุการณ์สำคัญจากประวัติศาสตร์การทหาร เช่น การรบ Austerlitz, Marengo, และการชนะในสงครามอื่น ๆ ประตูชัยนี้มีการสลักชื่อของทหารผู้เสียชีวิตในการรบหลายคน รวมทั้งชื่อของทหารที่มีชื่อเสียง


พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum)
เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงและใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในเมือง ปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยมีคอลเลคชั่นศิลปะและโบราณวัตถุที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์สูงมาก ก่อตั้งในปี 1793 หลังการปฏิวัติฝรั่งเศส เดิมเป็นพระราชวัง ก่อนจะเป็นพิพิธภัณฑ์, ลูฟวร์เคยเป็น พระราชวังของกษัตริย์ฝรั่งเศส ตั้งแต่ยุคกลาง และได้รับการขยายและตกแต่งในสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เมื่อฝรั่งเศสมีการปฏิวัติในปี 1789 พิพิธภัณฑ์ได้เปิดเป็นสาธารณะในปี 1793 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ศิลปะและวัฒนธรรมให้กับประชาชน  พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์มีคอลเลคชั่นงานศิลปะและโบราณวัตถุที่หลากหลายจากทั่วโลก เช่น ศิลปะยุคกลางและยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา ศิลปะยุคใหม่ ศิลปะจากเอเชียและอาหรับ


มหาวิหารซาเคร-เกอร์ (Sacré-Cœur)
มหาวิหารซาเคร-เกอร์ หรือที่เรียกกันว่า โบสถ์แห่งหัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในปารีสและเป็นจุดเด่นที่ตั้งอยู่บนยอดเขาของเขามงมาร์ต (Montmartre) ที่มีทิวทัศน์สวยงามของเมืองปารีส มหาวิหารนี้ออกแบบโดย ปอล อะบาดี (Paul Abadie) สถาปนิกชาวฝรั่งเศส และเป็นสถาปัตยกรรมในสไตล์ โรมาเนสก์-บิซานไทน์ การสร้างมหาวิหารนี้เริ่มขึ้นหลังจากการสูญเสียในสงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซีย (Franco-Prussian War) และมีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นการแสดงความศรัทธาต่อ หัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซู จุดเด่นของมหาวิหารคือโดมขนาดใหญ่ที่สูง 83 เมตร ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากหลายจุดในปารีส มีเสาหินสีขาวที่ทำจากหินปูนจากเมือง Château-Landon ภายในมหาวิหารมี โมเสกขนาดใหญ่ ที่มีชื่อว่า "Christ in Majesty" ซึ่งถือเป็นหนึ่งในโมเสกที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป


พระราชวังแวร์ซายส์ (Palace of Versailles)
เป็นหนึ่งในพระราชวังที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกและเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งและอำนาจของราชวงศ์ฝรั่งเศสในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 พระราชวังแวร์ซายส์มีสถาปัตยกรรมสไตล์ บาโรก ที่หรูหรา โดดเด่นด้วยห้องโถงขนาดใหญ่และห้องต่าง ๆ ที่ตกแต่งด้วยงานศิลปะที่มีความประณีต หนึ่งในห้องที่มีชื่อเสียงที่สุดในพระราชวังแวร์ซายส์ คือ ห้องโถงกระจก ซึ่งมีความยาวกว่า 73 เมตรและตกแต่งด้วยกระจกเงาและโคมไฟระย้า เป็นสถานที่ที่ใช้จัดงานเลี้ยงและการประชุมสำคัญ สวนมีลักษณะเป็นสวนแบบ บาร็อก ที่จัดเรียงต้นไม้, น้ำพุ, รูปปั้น, และบ่อน้ำไว้อย่างงดงาม สวนของแวร์ซายส์มีขนาดใหญ่มากและประกอบด้วยสวนหลายส่วน เช่น สวนฝรั่งเศส และ สวนอังกฤษ นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมสวน, ขี่จักรยาน, หรือใช้เรือพายเพื่อสำรวจบริเวณต่าง ๆ พระราชวังแวร์ซายส์เป็นมรดกโลกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโก สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่มีความงดงามในแง่ของสถาปัตยกรรมและศิลปะ แต่ยังมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์การเมืองของฝรั่งเศส โดยเฉพาะในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส


ทุ่งลาเวนเดอร์ (Lavender Fields)
เป็นพื้นที่ที่มีชื่อเสียงในการปลูกลาเวนเดอร์ที่สวยงามและมีกลิ่นหอมแรงที่สุด ทุ่งลาเวนเดอร์ในฝรั่งเศสไม่เพียงแต่สวยงามในแง่ของทัศนียภาพ แต่ยังสะท้อนถึงวัฒนธรรมและความเป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาคนี้ด้วย ช่วงที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมทุ่งลาเวนเดอร์ในฝรั่งเศสคือ ช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ดอกลาเวนเดอร์บานเต็มที่และสามารถเก็บเกี่ยวได้ กลางเดือนกรกฎาคม เป็นช่วงที่ทุ่งลาเวนเดอร์บานเต็มที่และสวยงามที่สุด นักท่องเที่ยวจะได้เห็นทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่กว้างใหญ่เต็มท้องทุ่ง


มหาวิหารนอเทรอดาม (Notre-Dame Cathedral)
เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่สำคัญที่สุดของปารีสและฝรั่งเศส โดยเป็นมหาวิหารในสไตล์กอธิค ที่มีชื่อเสียงและมีความสำคัญทั้งในด้านศาสนาและประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศส การก่อสร้างมหาวิหารเริ่มต้นในปี 1163 โดยพระสันตะปาปา อเล็กซานเดอร์ที่ 3 และเสร็จสมบูรณ์ในปี 1345 ใช้เวลานานถึง 182 ปี เพื่อสร้างเสร็จ มหาวิหารนอเทรอดามถูกออกแบบในสไตล์ กอธิค ที่มีลักษณะโดดเด่นด้วยหน้าต่างกระจกสีที่ประณีตและสูงขึ้นไปจนถึงยอดยอดของหอคอย มหาวิหารมีหอคอยทั้งสองด้านที่สูงถึง 69 เมตร และมีการออกแบบที่มีความสูงและกลมกลืนกับท้องฟ้า สร้างความงดงามและสง่างามให้กับทั้งมหาวิหารและทิวทัศน์เมือง หน้าต่างกระจกสีที่มีชื่อเสียงที่สุดของมหาวิหารคือลูกเล่น หน้าต่างโรส (Rose Windows) ซึ่งแต่ละหน้าต่างมีการตกแต่งด้วยกระจกสีที่เป็นภาพจากเรื่องราวทางศาสนา


ปราสาทชอมบอร์ด (Château de Chambord)
เป็นหนึ่งในปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดในภูมิภาคลัวร์ (Loire Valley) ของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกของยูเนสโก และเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของสถาปัตยกรรมเรอเนสซองซ์ (Renaissance) ของฝรั่งเศส ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ใน ป่าโบลอน (Forêt de Boulogne) ในเมือง แชมบอร์ (Chambord) และมีความสำคัญทั้งในแง่ของประวัติศาสตร์และความสวยงามทางสถาปัตยกรรม ปราสาทได้รับการออกแบบโดย โดเมนิโก เดอ ซาน กูโด (Domenico da Cortona) และ เลโอนาร์โด ดา วินชี ผู้มีอิทธิพลในด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมเรอเนสซองซ์ ปราสาทชอมบอร์มีลักษณะเด่นในด้าน สถาปัตยกรรมเรอเนสซองซ์ ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมฝรั่งเศสและอิตาลี โดยใช้รายละเอียดของเสา, การแกะสลัก, และลวดลายที่ละเอียดอ่อน หลังคาของปราสาทชอมบอร์มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยการออกแบบที่มี หอคอยหลายจุด และ หลังคาซ้อนกัน ซึ่งให้ความรู้สึกสวยงามและมีเอกลักษณ์ หนึ่งในลักษณะเด่นของปราสาทชอมบอร์คือ บันไดคู่ ซึ่งมีลักษณะเป็นบันไดสองตัวที่หมุนวนซ้อนกัน โดยแต่ละบันไดสามารถเดินได้โดยไม่ต้องพบกัน การออกแบบนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก เลโอนาร์โด ดา วินชี


ปราสาทเชอนองโซ (Château de Chenonceau)
เป็นหนึ่งในปราสาทที่งดงามที่สุดใน ภูมิภาคลัวร์ (Loire Valley) ของฝรั่งเศส ซึ่งมีลักษณะเด่นและเป็นที่รู้จักในเรื่องของ สถาปัตยกรรมเรอเนสซองซ์ และ การออกแบบสวนสวย ปราสาทเชอนองโซผสมผสานระหว่าง สถาปัตยกรรมกอธิค และ เรอเนสซองซ์ โดยมีการใช้เสาและเส้นโค้งที่สง่างาม รวมถึงห้องที่ประดับประดาด้วยผนังทาสีและภาพเขียนที่เป็นเอกลักษณ์ หนึ่งในลักษณะเด่นของปราสาทนี้คือ สะพานข้ามแม่น้ำเชอ ซึ่งช่วยให้ปราสาทดูเหมือนลอยอยู่เหนือแม่น้ำ สร้างความงดงามและสร้างความโดดเด่นให้กับตัวปราสาท


มงแซงมิเชล (Mont-Saint-Michel)
เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงด้วย วัดแห่งนักบุญมิเชล ที่ตั้งอยู่บนยอดเขา ซึ่งมีความสวยงามและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมสูงมาก ตั้งอยู่บนเกาะที่มีลักษณะพิเศษ คือ ระดับน้ำขึ้นน้ำลง ทำให้เกาะนี้สามารถเดินทางไปยังฝั่งได้ในช่วงน้ำลง และจะกลายเป็นเกาะที่เข้าถึงไม่ได้ในช่วงน้ำขึ้น โบสถ์แห่งนักบุญมิเชลตั้งอยู่บนยอดเขา และเป็นศูนย์กลางของเกาะ โดยมีสถาปัตยกรรมในรูปแบบ โกธิค ที่สูงสง่า พร้อมกับวิหาร, ศาลา, และหอคอยที่มีการตกแต่งอย่างละเอียด ภายในมงแซงมิเชลมีการสร้างปราสาทและกำแพงเมืองในสมัยกลาง ซึ่งถูกใช้เป็นป้อมปราการและที่หลบภัยในช่วงการป้องกันจากศัตรู


หน้าผาเอเทรตา (Étretat Cliffs)
เป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่สวยงามและโดดเด่นที่สุดใน แคว้นนอร์มังดี (Normandy) ทางทิศตะวันตกของฝรั่งเศส หน้าผาเหล่านี้มีชื่อเสียงในด้านความสวยงามของ โครงสร้างทางธรรมชาติ ซึ่งประกอบด้วยหน้าผาสูงตระหง่านและ อาร์คหิน ที่น่าทึ่งที่อยู่ริมชายฝั่งของ ทะเลแมนเชสเตอร์ (English Channel) หน้าผาเอเทรตาประกอบด้วย หินปูนขาว ที่ถูกกัดกร่อนจากการกัดเซาะของน้ำทะเลและลมจนเกิดเป็นหน้าผาที่สูงชันและโค้งงอ มีรูปร่างแปลกตาที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก หนึ่งในลักษณะเด่นของหน้าผาเอเทรตาคือ อาร์คหิน ที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเลจนมีลักษณะเหมือนสะพานธรรมชาติ ซึ่งเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยม อีกหนึ่งจุดที่เป็นที่รู้จักคือ Needle Rock หรือ "หินเข็ม" ซึ่งเป็นหินแหลมยื่นออกจากหน้าผา มีรูปร่างเหมือนเข็มขนาดใหญ่และสามารถมองเห็นได้จากชายฝั่ง


เทือกเขาแอลป์ (French Alps)
เป็นหนึ่งในภูเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุโรปและอยู่ในพื้นที่ทางภาคตะวันออกของฝรั่งเศส เชื่อมต่อกับประเทศอื่น ๆ เช่น อิตาลี, สวิตเซอร์แลนด์, และออสเตรีย โดยเป็นที่ตั้งของ ยอดเขามงบล็อง (Mont Blanc) ซึ่งสูงที่สุดในแอลป์และในยุโรปตะวันตก เทือกเขาแอลป์เป็นแหล่งยอดนิยมสำหรับกีฬาฤดูหนาว เช่น สกีและสโนว์บอร์ด อีกทั้งเทือกเขาแอลป์มีเส้นทางเดินเขาหลายระดับ ตั้งแต่การเดินเที่ยวระยะสั้นจนถึงการปีนเขาหรือการปีนผาในเส้นทางที่ยากขึ้น เทือกเขาแอลป์มีพื้นที่บางส่วนที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกของยูเนสโก เนื่องจากมีคุณค่าทางธรรมชาติที่สำคัญ ในช่วงฤดูร้อนและฤดูหนาวมีเทศกาลต่าง ๆ เช่น เทศกาลสกี และ เทศกาลดนตรี ที่จัดขึ้นในเมืองต่าง ๆ ของเทือกเขาแอลป์


ทะเลสาบอานซี (Lake Annecy)
เป็นหนึ่งในทะเลสาบที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส ทะเลสาบแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นทะเลสาบที่มีน้ำที่ใสและสะอาดที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ด้วยทิวทัศน์ที่งดงามของภูเขาล้อมรอบและน้ำสีฟ้าคราม ทะเลสาบอานซีเป็นจุดหมายยอดนิยมสำหรับการท่องเที่ยวทั้งในฤดูร้อนและฤดูหนาว ทะเลสาบมีน้ำที่ใสมากจนสามารถมองเห็นถึงพื้นทะเลได้ในบางจุด โดยน้ำทะเลมาจากแหล่งน้ำธรรมชาติจากเทือกเขาแอลป์ นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือในทะเลสาบอานซีเพื่อชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามรอบ ๆ ทะเลสาบ หรือเช่าเรือคายัค, แคนู หรือเรือใบเพื่อสัมผัสความเงียบสงบและทิวทัศน์จากน้ำ ทะเลสาบอานซีไม่เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกของยูเนสโก แต่ได้รับการยกย่องในด้านความงามทางธรรมชาติและความสะอาดของน้ำ ในช่วงฤดูร้อนมีการแสดงดอกไม้ไฟที่สวยงามบนทะเลสาบ


บริษัท NATNARA TRAVEL รับจัดทัวร์ ท่องเที่ยวฝรั่งเศสตลอดทั้งปี

- ใช้โรงแรม สะอาด ปลอดภัย

- อาหารรสชาติดี

สนใจเที่ยวฝรั่งเศส ติดต่อเราได้เลย

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้