จีน...การเดินทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และประวัติศาสตร์

ประเทศจีน (China) เป็นหนึ่งในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในโลก ทั้งในด้านเศรษฐกิจ, วัฒนธรรม, และประวัติศาสตร์ จีนมีอารยธรรมที่เก่าแก่และยาวนานกว่า 5,000 ปี ซึ่งได้สร้างมรดกทางวัฒนธรรมที่มีอิทธิพลต่อประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ความหลากหลายทั้งในด้านวัฒนธรรม, ประวัติศาสตร์, ธรรมชาติ และความทันสมัย ที่ทำให้ประเทศจีนเป็นจุดหมายท่องเที่ยวที่น่าสนใจและไม่เหมือนใคร

✨สถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนจีน✨

กำแพงเมืองจีน (The Great Wall of China)
เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกและเป็นมรดกโลกที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยกำแพงนี้ทอดยาวกว่า 21,196 กิโลเมต ครอบคลุม 15 มณฑลของจีน เช่น ปักกิ่ง เหอเป่ย ซานซี มองโกเลียใน และกานซู่ เช่น ภูเขา ทะเลทราย และทุ่งหญ้า สร้างขึ้นเพื่อป้องกันการรุกรานจากศัตรูทางตอนเหนือ โดยเริ่มต้นตั้งแต่ยุครัฐจิ๋น (221–206 ปีก่อนคริสตกาล) และพัฒนาต่อเนื่องจนถึงราชวงศ์หมิง (1368–1644) กำแพงเมืองจีนถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของความอดทนและความเป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมจีน

พระราชวังต้องห้าม (The Forbidden City)
เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญและมีความยิ่งใหญ่ที่สุดของจีน ตั้งอยู่ในใจกลางกรุงปักกิ่ง และเป็นมรดกโลกของ UNESCO ตั้งแต่ปี 1987 สร้างขึ้นในปี 1406-1420 โดยจักรพรรดิหย่งเล่อแห่งราชวงศ์หมิง เป็นที่ประทับของจักรพรรดิถึง 24 พระองค์ จากราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง (รวมกว่า 500 ปี) ครอบคลุมกว่า 720,000 ตารางเมตร (ประมาณ 180 เอเคอร์) มีอาคารกว่า 980 หลัง ประกอบด้วยห้องมากกว่า 8,700 ห้อง เหตุผลที่เรียกว่า "ต้องห้าม"  เพราะประชาชนทั่วไปไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในพื้นที่ ยกเว้นบุคคลที่จักรพรรดิอนุญาต ในสมัยก่อน

จางเจียเจี้ย (Zhangjiajie National Forest Park)
เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศจีน ตั้งอยู่ในมณฑลหูหนาน (Hunan Province) และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่งดงามและมีเอกลักษณ์ที่สุดในโลก มีลักษณะเป็นเสาหินสูงชันกว่า 3,000 ยอด ที่โผล่พ้นทะเลหมอก หนึ่งในยอดเขาที่มีชื่อเสียงคือ "ภูเขาฮัลเลลูยา" (Hallelujah Mountain) ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบฉากในภาพยนตร์ Avatar มีทะเลหมอก ป่าไม้เขียวขจี น้ำตก และลำธารที่สวยงาม ภายในอุทยานมีสะพานหินธรรมชาติที่สูงที่สุดในโลก กระเช้าลอยฟ้าที่ยาวที่สุดในโลก มีระยะทางกว่า 7.5 กิโลเมตร ลิฟต์กลางแจ้งที่สูงที่สุดในโลก สูงกว่า 326 เมตร และมีเส้นทางเดินบนกระจกริมหน้าผาสูง เหมาะสำหรับคนชอบความท้าทาย

ภูเขาหวงซาน (Huangshan - Yellow Mountain)
เป็นหนึ่งในภูเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดในจีน ตั้งอยู่ในมณฑลอันฮุย (Anhui Province) และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมโดย UNESCO ในปี 1990 มียอดเขาที่สวยงาม (Strange Peaks) มีหินรูปทรงแปลกตาหลายยอด เช่น ยอดดอกบัว (Lotus Peak), ยอดแสงสว่าง (Bright Summit Peak) ทะเลหมอก (Sea of Clouds) หมอกหนาที่ทำให้ภูเขาดูเหมือนลอยอยู่บนทะเลเมฆ อีกทั้งยังมีแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติที่เชิงเขา ทิวทัศน์ของหวงซานเป็นแรงบันดาลใจให้กับจิตรกรและกวีจีนมากมาย

เมืองโบราณลี่เจียง (Lijiang Ancient Town)
ตั้งอยู่ในมณฑลยูนนาน (Yunnan Province) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เป็นเมืองโบราณที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 800 ปี และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO ในปี 1997 ด้วยสถาปัตยกรรมดั้งเดิมและทัศนียภาพที่งดงาม มีอาคารบ้านเรือนในลี่เจียงเป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมจีนโบราณ ฮั่น และนาซี (ชนเผ่าพื้นเมืองในพื้นที่) เมืองนี้มีเครือข่ายคลองที่ได้รับการจัดการอย่างชาญฉลาดและสะพานหินกว่า 300 แห่ง จนได้รับฉายาว่า "เวนิสแห่งตะวันออก" เมืองนี้สร้างขึ้นในช่วงราชวงศ์ซ่งใต้ (Southern Song Dynasty) และมีบทบาทสำคัญในเส้นทางการค้าโบราณ "เส้นทางชาและม้า" (Tea-Horse Road) ระบบจัดการน้ำของลี่เจียงที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพยังคงใช้งานได้จนถึงปัจจุบัน

หุบเขาจิ่วไจ้โกว (Jiuzhaigou Valley)
ตั้งอยู่ในมณฑลเสฉวน (Sichuan Province) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เป็นอุทยานแห่งชาติและมรดกโลกของ UNESCO ที่ขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติที่งดงามราวกับเทพนิยาย ทะเลสาบใสสะอาดที่สะท้อนสีสันตามแสงแดดและแร่ธาตุในน้ำ มีทะเลสาบที่โด่งดัง เช่น ทะเลสาบห้าสี (Five-Flower Lake), ทะเลสาบกระจก (Mirror Lake) ป่าที่เขียวชอุ่มล้อมรอบด้วยยอดเขาหิมะสูงตระหง่าน ชื่อ "จิ่วไจ้โกว" แปลว่า "หุบเขาหมู่บ้านทั้งเก้า" เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่เคยมีหมู่บ้านชนเผ่าทิเบตทั้งหมด 9 หมู่บ้าน ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) เป็นช่วงที่จิ่วไจ้โกวสวยที่สุด เพราะใบไม้เปลี่ยนสีหลากสีสัน ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) ชมวิวหิมะและทะเลสาบน้ำแข็ง

ทะเลทรายตุนหวง (Dunhuang Desert)
ตั้งอยู่ในมณฑลกานซู่ (Gansu Province) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่มีความเชื่อมโยงกับเส้นทางสายไหม (Silk Road) และมีธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมด้วยมรดกทางวัฒนธรรมที่โดดเด่น เนินทรายขนาดใหญ่ที่เรียกว่า ภูเขาทรายร้องเพลง (Singing Sand Dunes) ซึ่งเกิดจากเสียงลมพัดผ่านเม็ดทราย ทำให้เกิดเสียงคล้ายดนตรี เนินทรายที่มีความสูงถึง 250 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินปีน เล่นสไลด์ หรือขี่อูฐบนเนินทรายได้ โอเอซิสที่มีรูปร่างคล้ายพระจันทร์เสี้ยว ตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลทราย มีน้ำใสสะอาดที่ไม่เคยแห้ง มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,000 ปี ล้อมรอบด้วยศาลาและสวนที่งดงาม ศูนย์กลางศิลปะพุทธศาสนาที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของจีน มีจิตรกรรมฝาผนังและพระพุทธรูปโบราณ

สุสานทหารดินเผาจิ๋นซีฮ่องเต้ (The Terracotta Army)
ตั้งอยู่ในเมืองซีอาน มณฑลส่านซี (Shaanxi Province) ประเทศจีน เป็นหนึ่งในการค้นพบทางโบราณคดีที่สำคัญที่สุดของโลก สุสานนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นการปกป้องจักรพรรดิ จิ๋นซีฮ่องเต้ (Qin Shi Huang) ในชีวิตหลังความตาย สุสานนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงราชวงศ์ฉิน (Qin Dynasty) เพื่อเป็นการปกป้องจักรพรรดิจากการโจมตีในโลกหลังความตายสร้างขึ้นในช่วง ประมาณ 210-209 ปีก่อนคริสต์ศักราช โดยมีทหารดินเผาจำนวนกว่า 8,000 รูป รวมถึงม้าและรถม้า แต่ละรูปถูกสร้างขึ้นด้วยมือทั้งหมด จากนั้นจะถูกนำมาประกอบกันในสุสาน ทหารเหล่านี้ทำจากดินเหนียว และมีสีสันที่เคยสดใส แต่ปัจจุบันจางลงจากการขุดค้น