โรมาเนีย ดินแดนแห่งตำนานแดร็กคูล่า รอให้คุณไปสัมผัส

ปราสาทบราน (Bran Castle)
เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดในโรมาเนีย และได้รับความสนใจจากทั่วโลกเนื่องจากความเชื่อมโยงกับตำนานของแดร็กคูล่า ตำนานที่สร้างจากตัวละคร Count Dracula ในผลงานของ Bram Stoker ปราสาทถูกสร้างขึ้นในช่วงปี 1377 โดยกษัตริย์ลุยจิแห่งฮังการี (King Louis I of Hungary) เพื่อใช้เป็นป้อมปราการในการป้องกันการรุกรานจากจักรวรรดิออตโตมัน มีสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคที่มีลักษณะโดดเด่นด้วยหอคอยและกำแพงหินที่แข็งแรง ปราสาทมีการตกแต่งที่มืดมนและมีความลึกลับ ซึ่งทำให้เหมาะสมกับการเป็นที่มาของตำนานแดร็กคูล่า คนที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับตัวละครแดร็กคูล่า ก็คือ Vlad III หรือ Vlad the Impaler ซึ่งเป็นผู้ปกครองแคว้นวาลาเคียในศตวรรษที่ 15 ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยอาศัยในปราสาทบราน แต่ปราสาทนี้ยังถูกเชื่อมโยงกับเขาในแง่ของประวัติศาสตร์และตำนาน

 

เมืองซีกีโซร่า (Sighișoara)
เป็นเมืองเล็ก ๆ ในแคว้นทรานซิลเวเนีย (Transylvania) ของโรมาเนียที่มีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมยุคกลางที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี เมืองนี้เป็นที่รู้จักในฐานะมรดกโลกขององค์การยูเนสโก และเป็นบ้านเกิดของ วลาดที่สาม หรือ Vlad the Impaler ผู้ที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับตัวละครแดร็กคูล่า เมืองนี้โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมยุคกลางที่ยังคงความสมบูรณ์แบบ เช่น หอคอย ประตูเมือง และบ้านเรือนหลากสี เมืองซีกีโซร่ามอบความรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในยุคกลาง ด้วยถนนที่ปูด้วยหิน อาคารเก่าแก่ และบรรยากาศที่เงียบสงบ เมืองนี้เป็นจุดหมายปลายทางที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่รักประวัติศาสตร์และต้องการสัมผัสเสน่ห์ของทรานซิลเวเนียอย่างแท้จริง

 

ปราสาทเปเลส (Peleș Castle)
เป็นหนึ่งในปราสาทที่สวยงามและน่าประทับใจที่สุดในยุโรป ตั้งอยู่ในแคว้นวัลลาเคีย (Wallachia) ใกล้กับเมืองซินายา (Sinaia) ของโรมาเนีย ปราสาทนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอเรอเนซองส์ (Neo-Renaissance) และเป็นสถานที่ที่สะท้อนถึงความมั่งคั่งและความหรูหราของยุโรปในยุคปลายศตวรรษที่ 19 สร้างขึ้นปี 1873–1914 โดยคำสั่งของกษัตริย์คาโรลที่ 1 (King Carol I) กษัตริย์พระองค์แรกของโรมาเนีย มีสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอเรอเนซองส์ผสมผสานกับอิทธิพลของสถาปัตยกรรมกอธิค บาร็อค และอาร์ตนูโว ภายนอกของปราสาทประดับด้วยรายละเอียดทางสถาปัตยกรรมที่สวยงาม เช่น หอคอยหลังคาสูง และลวดลายแกะสลักบนกำแพง ภายในตกแต่งอย่างประณีตด้วยวัสดุคุณภาพสูง เช่น ไม้มะฮอกกานี หินอ่อน และทองคำ ปราสาทเปเลสเป็นหนึ่งในปราสาทแรก ๆ ในยุโรปที่มีระบบไฟฟ้าและลิฟต์ นอกจากนี้ยังมีระบบทำความร้อนใต้พื้น

 

อาคารรัฐสภาแห่งโรมาเนีย (Palace of the Parliament)
เป็นสัญลักษณ์สำคัญของโรมาเนียและเป็นหนึ่งในอาคารที่โดดเด่นที่สุดในโลก โด่งดังในด้านขนาดที่ใหญ่โตและความหรูหรา อาคารนี้มีทั้งความเป็นเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมและเป็นสัญลักษณ์ของยุคสังคมนิยมในโรมาเนีย เป็นอาคารที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก (รองจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ) มีพื้นที่ใช้สอยรวมกว่า 365,000 ตารางเมตร เริ่มก่อสร้างในปี 1984 และยังคงปรับปรุงเพิ่มเติมในปัจจุบัน สถาปัตยกรรมสไตล์ผสมผสานระหว่างนีโอคลาสสิกกับองค์ประกอบของสถาปัตยกรรมโซเวียต อาคารนี้เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจและความฟุ่มเฟือยในยุคของเชาเชสกู แม้จะมีเสียงวิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมในยุคที่ประชาชนต้องเผชิญความยากลำบาก ปัจจุบันอาคารรัฐสภาเป็นสถานที่ตั้งของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา รวมถึงใช้เป็นพิพิธภัณฑ์และสถานที่จัดการประชุมนานาชาติ

เดลต้าของแม่น้ำดานูบ (Danube Delta)
เป็นหนึ่งในระบบนิเวศธรรมชาติที่สำคัญและงดงามที่สุดในยุโรป ตั้งอยู่ในประเทศโรมาเนีย เป็นจุดที่แม่น้ำดานูบ ซึ่งเป็นแม่น้ำสายที่สองที่ยาวที่สุดในยุโรป ไหลลงสู่ทะเลดำ (Black Sea) เดลต้าแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าและพืชพรรณหลากหลายชนิด รวมถึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี 1991 มีพื้นที่ประมาณ 4,152 ตารางกิโลเมตร (ถือเป็นเดลต้าที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป) เดลต้าแห่งนี้ประกอบด้วยลำธาร แม่น้ำสาขา ทะเลสาบ และพื้นที่ชุ่มน้ำ มีพืชน้ำ สาหร่าย และป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ มีปลาในแม่น้ำกว่า 100 ชนิด รวมถึงปลาสเตอร์เจียนซึ่งเป็นแหล่งของไข่ปลาคาเวียร์ นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือเพื่อชมธรรมชาติและสำรวจเขตต่าง ๆ ของเดลต้า เดลต้าดานูบเป็นสวรรค์ของนักดูนก โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนเมื่อมีนกอพยพจำนวนมาก เดลต้าดานูบเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณค่าและเป็นแหล่งกรองน้ำธรรมชาติของแม่น้ำดานูบก่อนจะไหลลงสู่ทะเลดำ เป็นพื้นที่สำคัญสำหรับการอนุรักษ์นกน้ำและสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ เช่น เต่าน้ำจืดและปลาสเตอร์เจียน

 

โบสถ์ดำ (Black Church)
เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองบราซอฟ (Brașov) ในโรมาเนีย และเป็นหนึ่งในโบสถ์ที่โดดเด่นที่สุดในยุโรปกลาง โบสถ์แห่งนี้เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของสถาปัตยกรรมโกธิคในภูมิภาคทรานซิลเวเนีย และมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและน่าประทับใจ เริ่มก่อสร้างในปี 1383 และแล้วเสร็จในปี 1477 เหตุผลที่ได้ชื่อว่า "โบสถ์ดำ" เนื่องจากหลังจากเกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในปี 1689 ทำให้กำแพงของโบสถ์มีคราบดำจากควันไฟ โบสถ์ดำเป็นตัวแทนของสถาปัตยกรรมโกธิคในยุโรปกลาง โดยมีลักษณะเด่นคือยอดแหลมสูงและหน้าต่างกระจกสี มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ระยะความยาว 89 เมตร กว้าง 38 เมตร หอระฆังสูง 65 เมตร เป็นที่ตั้งของระฆังทองสัมฤทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในโรมาเนีย น้ำหนักกว่า 6 ตัน โบสถ์ดำมีคอลเลกชันพรมตุรกีโบราณที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปนอกประเทศตุรกี พรมเหล่านี้เป็นเครื่องบรรณาการจากพ่อค้าในยุคกลาง ออร์แกนในโบสถ์นี้สร้างขึ้นในปี 1839 โดยมีท่อกว่า 4,000 ท่อ ถือเป็นหนึ่งในออร์แกนที่สำคัญที่สุดในยุโรป ปัจจุบันยังใช้ในคอนเสิร์ตดนตรีคลาสสิก

 

เส้นทางทรานส์ฟากาแรซัน (Transfăgărășan Road)
เป็นหนึ่งในถนนที่สวยงามและน่าตื่นเต้นที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในเทือกเขาคาร์เพเทียน (Carpathian Mountains) ของโรมาเนีย ถนนสายนี้เป็นทั้งเส้นทางสัญจรและแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักผจญภัยและผู้ชื่นชอบธรรมชาติจากทั่วทุกมุมโลก มีความยาวประมาณ 90 กิโลเมตร เชื่อมระหว่างเขต Argeș และ Sibiu ทางตอนกลางของโรมาเนีย ระดับความสูงอยู่ที่ 2,042 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล สร้างขึ้นเมื่อปี 1970–1974 โดยคำสั่งของ นิโคไล เชาเชสกู (Nicolae Ceaușescu) เพื่อใช้เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ ถนนสายนี้เต็มไปด้วยโค้งหักศอกและเนินลาดชัน รวมถึงอุโมงค์และสะพานที่ผ่านหุบเขาและหน้าผา ได้รับการขนานนามจากรายการ Top Gear ว่าเป็น "ถนนที่ดีที่สุดในโลก" ล้อมรอบด้วยทิวเขาสูง ทะเลสาบ และป่าสน ทำให้ทิวทัศน์ตลอดเส้นทางเต็มไปด้วยความงดงาม จุดที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดคือบริเวณ ทะเลสาบเบลีย (Bâlea Lake) ช่วงฤดูร้อน ถนนเปิดให้ใช้งานตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงตุลาคม ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ (เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการชมธรรมชาติ) ช่วงฤดูหนาวถนนปิดสำหรับยานพาหนะเนื่องจากหิมะปกคลุม แต่สามารถเดินทางไปยังทะเลสาบเบลียได้โดยกระเช้าลอยฟ้า


บริษัท NATNARA TRAVEL รับจัดทัวร์ ท่องเที่ยวโรมาเนียตลอดทั้งปี

- ใช้โรงแรม สะอาด ปลอดภัย

- อาหารรสชาติดี

สนใจเที่ยวโรมาเนีย ติดต่อเราได้เลย