ท่องเที่ยวเซวิลล์ เมืองแห่งแสงแดดและสถาปัตยกรรมงดงาม

เซวิลล์ (Seville) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคอันดาลูเซีย (Andalusia) ของประเทศสเปน เป็นหนึ่งในเมืองที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในด้านศิลปะ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของสเปน เมืองนี้มีความสำคัญทั้งทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ด้วยสถาปัตยกรรมที่มีอิทธิพลจากหลายยุคสมัย

พลาซา เดอ เอสปันญา (Plaza de España)
เป็นหนึ่งในจัตุรัสที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองเซวิลล์ (Seville) และถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่โดดเด่นของสถาปัตยกรรมสไตล์เรอเนซองส์ฟื้นฟู (Renaissance Revival) ผสมผสานกับสไตล์อันดาลูเซีย (Andalusian) พลาซา เดอ เอสปันญาเป็นสถานที่ที่มีความงดงามและเป็นที่รู้จักทั่วโลก สร้างขึ้นในปี 1928 โดยสถาปนิกอันทอนิโอ อาดาฟา (Antonio Álvarez) สำหรับงานนิทรรศการโลกในปี 1929 ซึ่งเป็นงานแสดงความก้าวหน้าทางวัฒนธรรมและเทคโนโลยีของสเปน สถาปัตยกรรมของพลาซานี้มีลักษณะเป็นครึ่งวงกลมขนาดใหญ่ มีอาคารสูงที่มีระเบียงและหอคอยขนาดใหญ่ที่ดูเด่น, ล้อมรอบด้วยคลองน้ำที่สามารถเดินเรือในเรือพายหรือเรือเล็กได้. ภายในจัตุรัสมีการตกแต่งด้วยกระเบื้องเซรามิก (Azulejos) ซึ่งแสดงถึงแต่ละภูมิภาคของสเปน

พระราชวังอัลคาซาร์ (Alcázar of Seville)
เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดในเมืองเซวิลล์และเป็นมรดกโลกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโก (UNESCO) ตั้งอยู่ในใจกลางของเซวิลล์ เป็นพระราชวังที่เก่าแก่และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างมาก สถานที่แห่งนี้มีการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากหลายวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นมูเดฮาร์ (Mudejar), กอธิค, เรอเนซองส์ และบาร็อก ซึ่งทำให้พระราชวังแห่งนี้เป็นตัวอย่างที่สวยงามของการผสมผสานของสถาปัตยกรรมต่างๆ ในสเปน พระราชวังอัลคาซาร์ (Alcázar) เดิมคือปราสาทมุสลิมที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 10 โดยราชวงศ์อาหรับในช่วงยุคอิสลามของสเปน (Al-Andalus) ต่อมาหลังจากที่คริสเตียนยึดครองเซวิลล์ในปี 1248 พระราชวังได้กลายเป็นที่พำนักของกษัตริย์คริสเตียนในสมัยนั้น โดยกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรคาสตีล และมีการปรับปรุงและขยายส่วนต่างๆ ของพระราชวังตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน พระราชวังอัลคาซาร์เป็นสถานที่ที่ถูกใช้ในภาพยนตร์หลายเรื่อง เช่น Game of Thrones (ซีซั่น 5) ในบทบาทของ "Water Gardens of Dorne" ซึ่งเป็นบ้านของตระกูล Dorne ในซีรีส์

มหาวิหารเซวิลล์ (Seville Cathedral)
เป็นมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปและเป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาและประวัติศาสตร์ในเมืองเซวิลล์ (Seville) มหาวิหารแห่งนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของสถาปัตยกรรมกอธิค (Gothic architecture) และได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO) ในปี 1987 มหาวิหารเซวิลล์สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 บนที่ตั้งของมัสยิดอาหรับเก่าแก่ที่ถูกทำลายหลังจากที่เซวิลล์ถูกยึดคืนจากชาวมุสลิมในปี 1248 โดยกษัตริย์เฟอร์ดินานด์ที่ 3 (Ferdinand III of Castile) การก่อสร้างมหาวิหารเริ่มขึ้นในปี 1401 และใช้เวลานานกว่า 100 ปีในการสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 1506 มหาวิหารเซวิลล์มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในแง่ของพื้นที่ภายใน และถือเป็นหนึ่งในมหาวิหารที่สำคัญที่สุดในยุโรป ภายในมหาวิหารมีการตกแต่งอย่างหรูหราด้วยงานศิลปะจากศิลปินชื่อดังในสมัยต่างๆ รวมถึงภาพวาด ศิลปะทางศาสนา และแผ่นทองเหลืองที่ตกแต่งอย่างละเอียด

เมโทรโพล ปาราโซล (Metropol Parasol)
เป็นโครงสร้างสมัยใหม่ที่ตั้งอยู่ในใจกลางของเซวิลล์ (Seville) และเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่ทันสมัยที่สุดในเมืองนี้ โครงสร้างนี้มีชื่อเล่นว่า "Las Setas de Sevilla" ซึ่งแปลว่า "เห็ดของเซวิลล์" เนื่องจากรูปร่างที่คล้ายกับเห็ดใหญ่ เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่มาเยือนเมืองเซวิลล์ ออกแบบโดยสถาปนิกชาวเยอรมัน Jürgen Mayer H. โครงสร้างนี้เริ่มก่อสร้างในปี 2005 และแล้วเสร็จในปี 2011 ใช้เวลาในการสร้างหลายปี เนื่องจากมีความซับซ้อนในการออกแบบและการก่อสร้างที่ต้องการเทคนิคพิเศษ ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการฟื้นฟูเมืองเซวิลล์ โดยมีเป้าหมายในการปรับปรุงพื้นที่สาธารณะและเพิ่มพื้นที่สำหรับการพักผ่อนในเมืองเก่า โครงสร้างนี้ประกอบด้วยแผ่นไม้ขนาดใหญ่ที่มีลักษณะคล้ายกับเห็ดหรือเสาไม้หลายพันต้นที่เรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ ซึ่งทำให้มันเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักในเซวิลล์ ที่ชั้นดาดฟ้าของเมโทรโพล ปาราโซลมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองเซวิลล์ รวมถึงมหาวิหารเซวิลล์และหอคอยฮิรัลดา