เบอร์ลิน (Berlin) เมืองหลวงแห่งเยอรมนี เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความหลากหลายและมีเสน่ห์เฉพาะตัวอันน่าหลงใหล เมืองนี้ถือเป็นจุดบรรจบของประวัติศาสตร์อันยาวนาน ศิลปะที่เปี่ยมด้วยชีวิตชีวา และความทันสมัยในแบบที่ไม่หยุดนิ่ง อีกทั้งทุกมุมถนนยังบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์
✨สถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเบอร์ลิน✨
ประตูบรันเดนบูร์ก (Brandenburg Gate)เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของเบอร์ลินและเยอรมนี ตั้งอยู่ที่ Pariser Platz ใจกลางเมืองหลวง สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1788–1791 โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก Propyläen ในกรุงเอเธนส์ สะท้อนความงดงามของสถาปัตยกรรมนีโอคลาสสิก เดิมทีสร้างขึ้นเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ แต่กลายเป็นจุดแบ่งแยกระหว่างเบอร์ลินตะวันออกและตะวันตกในช่วงสงครามเย็นหลังการล่มสลายของกำแพงเบอร์ลินในปี 1989 ประตูนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการรวมชาติ ด้านบนประตูมีรูปปั้น "Quadriga" ซึ่งเป็นเทพีแห่งชัยชนะขับรถม้าสี่ตัว เป็นผลงานที่โดดเด่นและมีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ทุกปีมีการจัดงานเฉลิมฉลองปีใหม่และกิจกรรมสำคัญระดับชาติบริเวณนี้ เป็นจุดรวมของทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่น กลางคืนที่ประตูจะถูกประดับไฟอย่างสวยงาม
East Side Galleryเป็นหนึ่งในจุดเด่นของเบอร์ลินและเป็นแหล่งรวมศิลปะกลางแจ้งที่สำคัญที่สุดในโลก ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำสปรี (Spree River) โดยใช้ส่วนที่หลงเหลือของ กำแพงเบอร์ลิน (Berlin Wall) มาเป็นแกลเลอรีศิลปะที่เต็มไปด้วยผลงานที่ทรงพลังและมีความหมาย มีความยาวประมาณ 1.3 กิโลเมตร และรวบรวมผลงานศิลปะกว่า 100 ชิ้น จากศิลปินนานาชาติ ผลงานศิลปะบนกำแพงนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนผ่านจากยุคของการแบ่งแยกสู่ความหวังและเสรีภาพหลังการล่มสลายของกำแพงในปี 1989 ผลงานที่โดดเด่น คือ "The Fraternal Kiss" (จูบพี่น้อง) โดย Dmitri Vrubel แสดงภาพผู้นำโซเวียตและเยอรมนีตะวันออกจูบกัน
อาคารรัฐสภาเยอรมัน (Reichstag Building)เป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและมีความสำคัญที่สุดในเยอรมนี ตั้งอยู่ในกรุงเบอร์ลิน อาคารนี้ไม่เพียงแต่มีความสวยงามทางสถาปัตยกรรม แต่ยังเป็นศูนย์กลางทางการเมืองและประวัติศาสตร์ของประเทศด้วย สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1894 ในยุคจักรวรรดิเยอรมัน สถาปัตยกรรมเป็นแบบนีโอเรเนซองส์ ออกแบบโดย Paul Wallot ในปี 1933 อาคารถูกไฟไหม้และเสียหายอย่างหนักในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กลายเป็นสัญลักษณ์ของความขัดแย้งและการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง หลังจากการล่มสลายของกำแพงเบอร์ลินและการรวมชาติในปี 1990 อาคารนี้ได้รับการบูรณะครั้งใหญ่และเปิดใช้งานอีกครั้งในปี 1999 จุดเด่นของอาคารคือมี โดมกระจก (Glass Dome) โดมโปร่งใสที่สะท้อนถึงความโปร่งใสในระบอบประชาธิปไตย นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปยังจุดชมวิว 360 องศา ชมทัศนียภาพของกรุงเบอร์ลิน
เกาะพิพิธภัณฑ์ (Museum Island)
เป็นแหล่งมรดกโลกของ UNESCO และหนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดในเบอร์ลิน ตั้งอยู่ใจกลางเมืองริมแม่น้ำสปรี (Spree River) เกาะนี้รวบรวมพิพิธภัณฑ์ชั้นนำของเยอรมนีที่นำเสนอศิลปะ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์จากทั่วโลก พิพิธภัณฑ์เด่นบนเกาะ พิพิธภัณฑ์เพอร์กามอน (Pergamon Museum) พิพิธภัณฑ์อัลเตส (Altes Museum) พิพิธภัณฑ์นอยเอส (Neues Museum) พิพิธภัณฑ์โบเดอ (Bode Museum) พิพิธภัณฑ์อัลเทอเนชั่นแนลเกอเลอรี (Alte Nationalgalerie) เกาะนี้เป็นแหล่งรวมผลงานที่ครอบคลุมทั้งศิลปะยุคโบราณและยุคใหม่ ตัวอาคารของพิพิธภัณฑ์แต่ละแห่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และวิวแม่น้ำสปรี ทำให้เกาะนี้เป็นจุดถ่ายภาพที่งดงามและบรรยากาศดี
จัตุรัสอเล็กซานเดอร์พลาทซ์ (Alexanderplatz)
เป็นหนึ่งในจัตุรัสที่สำคัญและพลุกพล่านที่สุดของกรุงเบอร์ลิน ถือเป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ผสมผสานบรรยากาศของอดีตและปัจจุบันได้อย่างลงตัว เดิมเป็นลานตลาดตั้งแต่ยุคกลาง ต่อมาได้รับการตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่ พระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 1 แห่งรัสเซีย เมื่อปี ค.ศ. 1805 ในยุคเยอรมนีตะวันออก (GDR) พื้นที่นี้กลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการคมนาคม บริเวณจัตุรัสเป็นที่ตั้งของ Berlin TV Tower (หอส่งสัญญาณโทรทัศน์เบอร์ลิน) หอคอยสูง 368 เมตร ให้ทัศนียภาพ 360 องศา ครอบคลุมทั่วกรุงเบอร์ลิน บนยอดมีร้านอาหารหมุนได้ที่เหมาะสำหรับการชมวิวในบรรยากาศหรูหรา
พระราชวังชาร์ลอตเตนบวร์ก (Charlottenburg Palace)
เป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเบอร์ลินและเป็นตัวอย่างที่งดงามของสถาปัตยกรรมแบบบาโรกและโรโกโก พระราชวังแห่งนี้ไม่เพียงสะท้อนความหรูหราในยุคศตวรรษที่ 17-18 แต่ยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเยอรมนี สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1695 โดยพระเจ้าฟรีดริชที่ 3 (Frederick III) เพื่อเป็นที่ประทับของพระมเหสี โซฟี ชาร์ลอตเตอ (Sophie Charlotte) หลังจากพระนางสิ้นพระชนม์ในปี 1705 พระราชวังนี้ได้รับการตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่พระนาง ไฮไลต์ที่น่าสนใจอาคารหลัก (Main Palace) มีโถงกระจกและห้องบัลลังก์ที่ตกแต่งอย่างวิจิตร แกลเลอรีศิลปะที่จัดแสดงภาพวาดและเครื่องประดับยุคบาโรก สวนชาร์ลอตเตนบวร์ก (Charlottenburg Garden) สวนสไตล์ฝรั่งเศสที่ออกแบบโดยสถาปนิกสวนชื่อดัง Siméon Godeau มีทะเลสาบ น้ำพุ และทางเดินที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน
สวนเทียร์การ์เทน (Tiergarten)
เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในกรุงเบอร์ลิน มีพื้นที่กว่า 210 เฮกตาร์ (ประมาณ 2.1 ตารางกิโลเมตร) และถือเป็น "ปอดสีเขียว" ของเมือง สวนนี้ไม่เพียงเป็นพื้นที่พักผ่อนสำหรับคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว แต่ยังเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ สวนนี้ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1527 เพื่อใช้เป็นพื้นที่ล่าสัตว์ของราชวงศ์ปรัสเซียต่อมาในศตวรรษที่ 18 ได้เปลี่ยนเป็นสวนสาธารณะตามคำสั่งของพระเจ้าฟรีดริชที่ 2 (Frederick the Great) ไฮไลต์ที่น่าสนใจในสวน คลองเล็กๆ ที่ลัดเลาะผ่านสวน พร้อมสะพานสวยงามสำหรับเดินเล่นและถ่ายภาพ มีอนุสาวรีย์สำคัญ เช่น อนุสาวรีย์บิสมาร์ค และ รูปปั้นของพระราชินีลูอีเซอแห่งปรัสเซีย บึงและทะเลสาบ จุดพักผ่อนที่เหมาะสำหรับการนั่งชิลล์ ปิกนิก หรือให้อาหารนก สวนดอกไม้และทุ่งหญ้า ช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน สวนเต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีสัน
บริษัท NATNARA TRAVEL รับจัดทัวร์ ท่องเที่ยวเบอร์ลินตลอดทั้งปี
- ใช้โรงแรม สะอาด ปลอดภัย
- อาหารรสชาติดี
สนใจเที่ยวเบอร์ลิน ติดต่อเราได้เลย